วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อำเภอแหลมสิงห์ (Leamsing)



อำเภอแหลมสิงห์

เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี อำเภอแหลมสิงห์ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอท่าใหม่และอำเภอเมืองจันทบุรี
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอขลุง
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอขลุงและอ่าวไทย
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอ่าวไทย




ที่มาของชื่อ "แหลมสิงห์" มาจากหินธรรมชาติที่มีรูปลักษณะคล้ายกับสิงโตหมอบ 2 ตัวที่ปากอ่าวแหลมสิงห์ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงตัวเพราะถูกทำลายไปในเหตุวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112




อำเภอแหลมสิงห์แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 7 ตำบล 65 หมู่บ้าน ได้แก่ 

1.ปากน้ำแหลมสิงห์
2.เกาะเปริด
3.หนองชิ่ม
4.พลิ้ว
5.คลองน้ำเค็ม
6.บางสระเก้า
7.บางกะไชย




ท้องที่อำเภอแหลมสิงห์ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 แห่ง ได้แก่ 

- เทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลพลิ้ว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพลิ้วและตำบลคลองน้ำเค็มทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเปริด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกาะเปริดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองชิ่ม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองชิ่มทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบางสระเก้า ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางสระเก้าทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบางกะไชย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางกะไชยทั้งตำบล





สถานที่เที่ยว 

คุกขี้ไก่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) อยู่บริเวณแหลมสิงห์ ก่อนถึงท่าเทียบเรือ 1 กิโลเมตร เมื่อฝรั่งเศสได้เข้ายึดจันทบุรีในกรณีพิพาทกันด้วยเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ระหว่างนั้นฝรั่งเศสได้ยกกองทหารเข้าสู่เมืองจันทบุรีประมาณ 600 คน แยกกันอยู่สองแห่ง แห่งแรกตั้งอยู่ที่เมืองจันทบุรีบริเวณที่เป็นค่ายทหารในปัจจุบัน อีกแห่งตั้งอยู่ที่ปากน้ำแหลมสิงห์ ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยม หลังคาโปร่ง เล่ากันว่าเป็นคุกที่ทรมานมาก เพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลราดศีรษะนักโทษที่ถูกคุมขัง




ตึกแดง อยู่ห่างจากหาดแหลมสิงห์ไม่ไกลเท่าไหร่ ขับรถไม่ถึง 5 นาที เมื่อมาถึงจะเห็นอาคารหลังนี้เป็นอาคารชั้นเดียวอยู่หัวมุมถนน มองแล้วรู้เลยว่าเป็นตึกแดง ด้วยสีแดงทั้งหลังอันเป็นเอกลักษณ์ประกอบกับความเก่าแก่ตามอายุ กว้าง 7 เมตร ยาว 32 เมตร ภายในมี 5 ห้องประตูเปิดถึงกันได้หมด ฝรั่งเศสสร้างขึ้นเมื่อปี 2436 โดยรื้ออิฐจากป้อมพิฆาตข้าศึกมาสร้าง เพื่อใช้เป็นกองรักษาการณ์ และที่พักนายทหารที่รักษาปากน้ำแหลมสิงห์ ในครั้งนั้นฝรั่งเศสซึ่งแผ่อิทธิพลเข้าครอบครองญวนปละเชมรได้หาเหตุรุกรานไทยโดยอ้างว่าดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงคือราชอาณาจักรลาวเกือบทั้งหมดรวมทั้งแคว้นสิบสองจุไท เคยเป็นของญวนและเขมรมาก่อนจึงถือโอกาสเข้ายึดครอง ทำให้สู่รบกับไทย ครั้งนั้นไทยต้องเสียค่าปรับราว 4 ล้านบาทโดยก่อนจะจ่ายค่าเสียหายฝรั่งเศสยึดจันทบุรีไว้เป็นประกัน ราว 11 ปี (พ.ศ.2436-2446) จากเหตุการณ์ครั้ง ร.ศ. 112 นี้ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนครั้งสำคัญ ราชอาณาจักรลาวเกือบทั้งหมด รวมทั้งสิบสองจุไท ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสรวมพื้นที่ประมาณ 143,800 ตารางกิโลเมตร พลเมือง 600,000 คน




อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตั้งอยู่ในเขตเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ ระยะทาง 17 กิโลเมตรจากตัวเมือง มีเนื้อที่ทั้งหมด 84,063 ไร่ สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดิบชื้น มี 3 ชั้น จากทางขึ้นไป 200 เมตร มีอลงกรณ์เจดีย์ทางขวามือ เป็นเจดีย์ศิลาแลง รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้พระยาจันทบุรีเป็นแม่กองสร้างเมื่อ พ.ศ. 2419 นอกจากนี้แล้วบริเวณใกล้ ๆ กัน ยังมีพีระมิดอีกแห่งหนึ่ง ชื่อ "ปิรามิดพระนางเรือล่ม" หรือ "สถูปพระนางเรือล่ม" เป็นที่บรรจุพระอังคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (พระนางเรือล่ม) ซึ่งเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2417 และที่อุทยานแห่งชาตินี้ยังมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อีกมากมาย




โอเอซีสซีเวิลด์ ตั้งอยู่ ณ ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ซึ่งห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 ก.ม.เป็นสถานที่เพาะพันธุ์โลมา และการแสดงโลมา 2 สายพันธุ์ไทย นั่นก็คือ โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี และนอกจากการแสดงโลมาแล้วนั้นโอเอซีส ซีเวิลด์ก็ยังเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกับโลมาด้วย จับได้ สัมผัสได้ ชนิดที่เรียกว่า “เนื้อแนบเนื้อ” กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความประทับใจ เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เป็น ครั้งหนึ่งในชีวิต




คำขวัญ อ.แหลมสิงห์

เล่นน้ำตกพลิ้ว ชมวิวชายทะเล เที่ยวเตร่ตึกแดง โชว์แสดงโลมา กุ้งปูปลาผลไม้มากมี เสื่อดีบางสระเก้า เกาะนมสาวอ่างกระทิง แหลมสิงห์จันทบูร